การรักษารากฟัน 6 ขั้นตอน ดูแลรักษารากฟัน ด้วยทันตแพทย์เฉพาะทาง

การรักษารากฟัน 6 ขั้นตอน ดูแลรักษารากฟัน ด้วยทันตแพทย์เฉพาะทาง

การรักษารากฟัน

6 ขั้นตอน การรักษารากฟัน ดูแลรักษารากฟัน ด้วยทันตแพทย์เฉพาะทาง

การรักษารากฟัน ดูแลรักษารากฟัน ด้วยทันตแพทย์เฉพาะทาง บางครั้งหลายคนอาจจะคิดว่าฟันตัวเองขาวสะอาด แสดงว่ามีสุขภาพฟันและช่องปากที่แข็งแรงดีแล้ว แต่อันที่จริง แม้จะมีฟันขาว แต่หากมีอาการเลือดออกตามไรฟันบ่อยๆ ปวดฟัน มีกลิ่นปาก มีหินปูนมาก และมีฟันผุหลายซี่ เหล่านี้ล้วนแสดงช่องปากของคุณกำลังมีปัญหา ต้องได้รับการดูแลแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะยิ่งแก่ตัวขึ้น ก็ยิ่งแก้ไขได้ยากกว่าเดิม อาจลามไปถึงการเกิดปัญหา โรคเหงือก ได้

ทั้งนี้ทางออกที่ดีที่สุดก็คือการรักษารากฟัน โดยเฉพาะในกรณีของผู้ที่มีฟันผุแล้วปล่อยทิ้งไว้นานๆ โดยไม่รักษาด้วยการอุดฟันให้เรียบร้อย เสี่ยงมากที่จะลุกลามทำลายรากฟันมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงชั้นโฟรงประสาทฟันเกิดการอักเสบ ฝีหรือหนองที่ปลายรากฟันตามมา ถ้าไม่ทำอะไรจนเรื้อรังต่อมาอาจถึงขั้นต้องถอนฟันทิ้ง รวมถึงมีโอกาสที่จะกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคคอยในช่องปากที่อาจลามไปถึงอวัยวะอื่นๆในร่างกาย ขณะเดียวกันโรคเหงือกกาที่ฟันแตกหักมีรอยร้าวหรือถูกกระแทกแรงๆ ก็ทำให้โพรงประสาทฟันเกิดการอักเสบได้ด้วย


รักษารากฟันให้ปลอดภัย

สำหรับการ รักษารากฟัน หรือ การรักษาคลองรากฟันคือการซ่อมแซมและรักษาฟันที่เสียหายหรือติดเชื้ออย่างรุนแรง แบบไม่ต้องถอนฟันทิ้ง ซึ่งขั้นตอนการรักษาจะประกอบด้วยการขูดเนื้อฟันส่วนที่เสียหายออก (ของโพรงประสาทและคลองรากฟัน) ทำความสะอาด และทำให้ปราศจากเชื้อโรคก่อน จึงค่อยอุดคลองรากฟันกับโพรงประสาทฟัน เพื่อลดความเสียหายในช่องปากและช่วยลดอาการ ปวดฟันมากๆ

ด้านสาเหตุทั่วไปที่ทำให้โพรงประสาทฟันเสียหายได้แก่ ฟันแตก ฟันผุลึก การรักษาฟันซี่ใดๆซ้ำหลายครั้ง หรือฟันได้รับบาดเจ็บ คำว่า การรักษาคลองรากฟัน จึงมีที่มาจากการทำความสะอาดโพรงที่อยู่ภายในรากฟัน

และในส่วนของวิธีการรักษารากฟัน หลักการที่สำคัญคือ หากฟันของผู้ป่วยมีการติดเชื้อในโพรงประสาท การรักษาก็จะทำโดยการใส่ยาประเภทแคลเซียมไฮดรอกไซด์ เพื่อฆ่าเชื้อ เมื่อมั่นใจแล้วว่าภายในคลองรากฟันปราศจากเชื้อ ก็จะทำการอุดและครอบฟันต่อไป โดยประกอบด้วยหลายขั้นตอนและผู้ป่วยต้องเดินทางมาพบทันตแพทย์หลายครั้ง แล้วแต่สถานการณ์ดังต่อไปนี้


6 วิธีรักษารากฟัน ด้วยทันตแพทย์เฉพาะทาง

  • 1. วิธีรักษารากฟัน ด้วยทันตแพทย์เฉพาะทาง เริ่มจากการตรวจฟันและเอ็กซ์เรย์ฟัน จากนั้นจึงฉีดยาชาเฉพาะที่เข้าไปในบริเวณฟันที่เสียหาย รวมถึงอาจมีการกรอฟันหาคลองรากฟันที่เป็นรูเล็กๆ อยู่ต่อจากโพรงประสาทถึงปลายรากฟัน

  • 2. ปกติแล้ว ทันตแพทย์จะใช้แผ่นยาง เพื่อแยกฟันที่จะรักษาออกจากฟันซี่อื่น และป้องกันน้ำลาย ก่อนที่จะขยายคลองรากฟันให้ใหญ่ขึ้น และใช้น้ำยาล้าง ซับให้แห้ง และใส่ยาฆ่าเชื้อโรคได้

  • 3. ทันตแพทย์จะเจาะฟันหน้าด้านหลังหรือตัวฟันของฟันกรามหรือฟันกรามน้อย เพื่อกำจัดโพรงประสาทฟันที่ติดเชื้อออกไป กระบวนการนี้เรียกว่าพัลพ์เอ็กโตมี

  • 4. ต่อมาจึงทำความสะอาดช่องโพรงประสาทและคลองรากฟัน แล้วปรับรูปร่างให้เหมาะกับการอุดฟัน หลังจากนั้นทันตแพทย์จะล้าง และขยายคลองรากฟัน พร้อมเปลี่ยนยาฆ่าเชื้อโรคใหม่ และอุดปิดโพรงประสาทฟันด้วยวัสดุอุดชั่วคราวกลับไปอีกครั้ง ทำเช่นนี้ 4 – 5 ครั้ง จนกว่าหนองจะแห้ง ไม่มีเชื้อโรคและสิ่งสกปรกตกค้างเพื่อให้ยาออกฤทธิ์ประมาณ 3 ถึง 7 วัน ถัดไปทันตแพทย์จะอุดคลองรากฟันด้วยวัสดุอุดคลองราก

  • 5. เมื่อหนองแห้งไม่มีเชื้อโรคและสิ่งสกปรกแล้ว ทันตแพทย์ก็จะทำการอุดปิดโพรงประสาทฟันถาวรด้วยวัสดุจำพวกยาง อุดตั้งแต่ปลายรากฟันถึงพื้นโพรงประสาทฟัน รวมทั้งการปิดทับด้วยวัสดุทางทันตกรรมจำพวกซีเมนต์ และอมัลกั้ม (ที่มีสีคล้ายเงินหรือกระดาษดีบุกที่หุ้มซองบุหรี่มีคุณสมบัติให้ความแข็งแรงได้ดี จึงใช้อุดฟันกรามที่ต้องรับแรงบดเคี้ยวมากๆ สำหรับฟันหน้าที่ต้องการความสวยงาม และไม่ต้องรับแรงบดเคี้ยวมาก ก็จะอุดด้วยวัสดุที่มีสีเหมือนฟันธรรมชาติ

  • 6. ทันตแพทย์จะทิ้งระยะเพื่อรอดูอาการ โดยขึ้นอยู่กับสภาพของฟันของแต่ละบุคคล เมื่อแน่ใจว่าการรักษารากฟันประสบความสำเร็จ ทันตแพทย์จะทำการครอบฟันด้วยวัสดุตามความเหมาะสม

รากฟัน

จากนั้น ผู้ที่ต้องการรักษา รากฟัน ต้องมีเวลาไปพบทันตแพทย์มากกว่าหนึ่งครั้ง ทันตแพทย์อาจจะอุดฟันไว้ชั่วคราวเพื่อปกป้องฟันเอาไว้จนกว่าผู้รับการรักษาจะมาพบทันตแพทย์ในครั้งถัดไป หลังจากนั้นทันตแพทย์จะนำวัสดุอุดฟันชั่วคราวออกและอุดโพรงประสาทฟันและคลองรากฟันแต่ละคลองด้วยวัสดุอุดคลองรากเป็นการถาวร และปิดด้วยซีเมนต์ บางครั้งอาจจะมีการวางแท่งโลหะหรือพลาสติกเอาไว้ในคลองรากสำหรับพยุงวัสดุอุดฟัน

และขั้นตอนสุดท้ายจากนั้นทันตแพทย์มักจะทำครอบฟันไว้บนฟันเพื่อให้ฟันมีรูปร่างและลักษณะเป็นธรรมชาติ ซึ่งถ้าฟันซี่นั้นหัก ทันตแพทย์อาจจะต้องสร้างเสาฟันขึ้นมาเพื่อใช้ในการติดตั้งครอบฟัน

คุณอาจสนใจเนื้อหาต่อไปนี้: รักษารากฟันราคาเท่าไหร่

ใครบ้างที่ควรเข้ารับ การรักษารากฟัน

การรักษารากฟันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะการรักษารากฟันช่วยให้ฟันยังคงมีประโยชน์และสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดชีวิต ดังนั้นผู้ที่ควรรักษารากฟันได้แก่

  • เด็กและเยาวชน: เด็กและเยาวชนต้องการการดูแลฟันและรากฟันเพื่อช่วยป้องกันการเสียฟันและรักษาฟันให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีตลอดชีวิต
  • ผู้ใหญ่: ผู้ใหญ่ต้องรักษารากฟันอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการสูญเสียฟัน โรคเหงือกอักเสบ และโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรากฟัน เช่น โรคหินปูน และการสลายของรากฟัน
  • ผู้สูงอายุ: ผู้สูงอายุต้องการการดูแลฟันและรากฟันเพื่อรักษาสุขภาพและคุณภาพชีวิต เนื่องจากอาจเกิดโรคเหี่ยวย่นเป็นเวลานาน และการรักษารากฟันอย่างเหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเหล่านี้ได้
  • ผู้ที่มีโรคที่เกี่ยวข้องกับฟันและรากฟัน: ผู้ที่มีโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเหงือกและการสูญเสียฟัน เพราะโรคเหล่านี้สามารถทำให้เกิดอาการปวดและอาการปวดฟันรุนแรงได้ ดังนั้นการรักษารากฟันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ที่มีโรคเหล่านี้ เพื่อป้องกันการเสียฟันและป้องกันการเกิดภาวะที่เกี่ยวข้องกับฟันที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั่วไปของร่างกายด้วย

สำหรับผู้ที่ต้องการรักษารากฟัน เช่น ผู้ที่มีฟันผุ หรือต้องการติดเครื่องจักรจัดฟัน ก็จะต้องมีการรักษารากฟันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ฟันเติบโตและแข็งแรงมากพอที่จะรองรับการรักษาดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการรักษารากฟันยังควรมีการดูแลและทำความสะอาดฟันอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาสุขภาพฟันและรากฟันให้แข็งแรงอยู่เสมอ


การรักษารากฟัน

การรักษารากฟันเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะรากฟันเป็นส่วนที่สำคัญของฟันที่อยู่ใต้เหงือกและยังเชื่อมต่อกับกระดูกขากรรไกรเพื่อให้ฟันสามารถยึดตัวไว้ในที่ได้ นอกจากนี้ รากฟันยังเป็นที่อยู่ของหลอดเลือดและประสาทที่จำเป็นสำหรับการบำรุงสุขภาพของเครือข่ายระบบประสาทและระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายด้วย หากไม่รักษารากฟันให้เหมาะสม เช่น ไม่ได้ทำการทำความสะอาดฟันอย่างสม่ำเสมอ หรือไม่ได้รักษาโรคเหนือเกินไป อาจทำให้เกิดโรคเหล่านี้ได้ เช่น โรคเหงือกอักเสบ การเสื่อมสลายของรากฟัน และการสูญเสียฟัน เหล่านี้สามารถทำให้เกิดอาการปวดและอาการปวดฟันรุนแรงได้ นอกจากนี้ การสูญเสียฟันอาจส่งผลกระทบต่อการกลืน การพูด และการรับประทานอาหารด้วย ดังนั้น การรักษารากฟันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพื่อรักษาฟันและสุขภาพทั่วไปของร่างกายด้วย

อย่างไรก็ตาม การรักษารากฟันสามารถเก็บรักษาฟันไว้ใช้งานได้ต่อไปดีกว่าการใส่ฟันปลอม เนื่องจากฟันที่รักษารากแล้วก็เหมือนฟันในปากซี่อื่นๆคือ มีเบ้ากระดูกยึดให้ฟันแน่นมั่นคงแข็งแรง และให้ความรู้สึกดีกว่าการใส่ฟันปลอมมาก ดังนั้น ผู้ที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพในช่องปาก อย่ารีรอที่จะเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการดูแลรักษารากฟันอย่างทันท่วงที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนสายเกินแก้ เพราะคุณอาจจะต้องมานั่งนึกเสียใจในภายหลังเอาได้

อ้างอิง:

Root canal treatment. https://www.nhs.uk/conditions/root-canal-treatment/

Root Canal Explained. https://www.aae.org/patients/root-canal-treatment/what-is-a-root-canal/root-canal-explained/

Comments

comments